

การล้างพิษนั้นมีสาเหตุมากมายหลายประการ
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่เข้าโปรแกรมการล้างพิษก็เพื่อช่วยฟื้นฟูสุขภาพ
เพิ่มกำลังวังชา และช่วยให้ร่างกายแข็งแรง เป็นหนุ่มเป็นสาวได้อีกนาน
ช่วยรักษาอาการป่วยป้องกันและรักษาโรคบางชนิดที่อาจเกิดขึ้น และช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตขึ้นอีกครั้ง
คุณจะสามารถกำจัดของเสียต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้หมดสิ้นหรือเบาบางลงได้
การล้างพิษจะช่วยให้ชีวิตคุณปลอดจากสิ่งเสพติดต่างๆ และร่างกายสะอาด แข็งแรงขึ้น
เคยมีการสำรวจกลุ่มผู้ที่นิยมล้างพิษเป็นประจำ
ได้ผลว่า หลังจากการล้างพิษกลุ่มคนเหล่านั้นมีความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเพิ่มขึ้นช่วยให้สมองปลอดโปร่งมีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น
มีกำลังวังชาที่จะทำงานต่างๆ เพิ่มเติม
หรือกลุ่มของผู้ที่ล้างพิษด้วยการอดอาหารและดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้
ผลสำรวจพบว่า คนกลุ่มนี้มีร่างกายที่แข็งแรงขึ้นสดชื่นและกระฉับกระเฉงขึ้น
ทั้งยังมีสติ ตื่นตัวมากขึ้น ถึงกับมีการรวมกลุ่มผู้ที่ล้างพิษขึ้น
ผนวกกับชั้นเรียนโยคะ ซึ่งคนกลุ่มนี้ต่างบอกว่าวิธีนี้ช่วยให้พลังงานภายในร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหว
จากจุดศูนย์กลางการย่อย และช่วยขับของเสียไปยังส่วนล่าง เป็นการล้างพิษทั้งระบบ
คือร่างกาย จิตใจ สติสัมปชัญญะ
การล้างพิษมีประโยชน์ทางอ้อมในการช่วยลดน้ำหนัก
กำจัดไขมันส่วนเกินแม้ว่าความตั้งใจจริงในการล้างพิษคือเพื่อขับสารพิษก็ตามแต่แน่นอนอยู่แล้วว่าในระหว่างการล้างพิษ
คุณต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้น ลดปริมาณของไขมัน พลังงาน
และคอเลสเตอรอลในอาหารลง น้ำหนักตัวที่ลดลงและสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นจะเป็นผลพลอยได้ที่พวกคุณจะต้องพอใจทีเดียว
และนอกจากการล้างพิษลำไส้
หรือระบบย่อยอาหารส่วนต่างๆ
ที่เคยทำงานหนักให้สะอาดและทำงานน้อยลงแล้วอวัยวะอื่นๆข้างเคียงเช่น ตับ ถุงน้ำดี
และไต ก็จะมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ด้วยสาเหตุที่การกินอยู่ในปัจจุบัน
คุณมีภารกิจที่ต้องรับผิดชอบและปฏิบัติ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
มีมากจนทำให้คนเราใช้นวัตกรรมต่างๆ เหล่านั้นมาอำนวยเปลี่ยนพฤติกรรม
ร่างกายถูกบังคับและปรับเปลี่ยนเวลาจนบางครั้งเกิดอาการรวนในระบบ
จากเดิมที่เคยขับถ่ายในเวลาเช้าหลังจากตื่นนอน เพื่อขับถ่ายของเสียออก
แต่เนื่องจากต้องออกไปทำงานในสถานที่ที่ไกลจากที่พัก
คุณอดทนอดกลั้นไม่ถ่ายของเสียเพียง 2-3 วัน
ระบบการขับถ่ายของคุณก็จะปรับเปลี่ยนโดยอัตโนมัติทันที
อาหารการกินจากเดิมที่สามารถหาได้ตามธรรมชาติ
อยู่ในห่วงโซ่อาหารปกติ เมื่อมีการเกิดเพิ่มขึ้น มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยขึ้น
คนเราก็ปรับเปลี่ยนและแทรกแซงจนทำให้ระบบห่วงโซ่อาหารผิดเพี้ยน
เมื่อวิวัฒนาการทางการแพทย์ดีขึ้น ประชากรมีการเกิดมากขึ้น ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ให้หมดไปอย่างรวดเร็ว
คนจึงคิดค้นวิธีการเพื่อตอบสนองความต้องการ ด้วยการปลูกพืชไว้กินเอง
แทนที่จะต้องออกไปหาพืชที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เลี้ยงสัตว์และใช้สารอาหารต่างๆ
เพื่อเร่งให้สัตว์เหล่านั้นเติบโตได้ทันต่อความต้องการบริโภคเพราะฉะนั้น
สารพิษที่เกิดขึ้นหรือสะสมในร่างกายก็เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์เรานั้นเอง
และเพราะคนเรามีการเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นนั่นเอง
“กระบวนการล้างพิษ” จึงเกิดขึ้น
เชื่อกันว่าศาสตร์แห่งการล้างพิษนั้น มีมาตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณทีเดียว
สืบทอดต่อเนื่องกันมายาวนาน เหตุผลก็เพื่อให้ร่างกายปรับสภาวะสมดุลบางครั้งการบริโภคอาหารประเภทไขมันโปรตีนและแป้งเกินความจำเป็น
ก็จะส่งผลกระทบให้ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติระบบขับถ่ายรวนเกิดไขมันสะสมเพิ่มเกินความจำเป็นฯลฯเป็นต้น
ดังนั้นเหตุผลหลักๆ
ในการล้างพิษ ก็เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น พละกำลังที่เคยหดหายมีมากขึ้น
และร่างกายได้รับการฟื้นฟู ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง ความจำความคิดโลดแล่น
และการมากระฉับกระเฉงมากขึ้น
โปรแกรมล้างพิษจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพและปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคุณ
ทำให้คุณสามารถลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ไม่ดีกับร่างกายและสุขภาพ
ช่วยกำจัดของเสียต่างๆ ที่ตกค้างในร่างกายให้หมดสิ้นไป
ทำให้คุณปรับเปลี่ยนนิสัยการติดอาหาร หรือสารเสพติดต่างๆ
ช่วยให้คุณพบกับชีวิตใหม่ที่ปราศจากสารพิษ
การล้างพิษทำให้ประโยชน์ทางอ้อมในเรื่องการลดน้ำหนัก
แม้มันจะไม่ใช่แผนการลดน้ำหนักโดยตรงก็เถิด
แต่มันเหมือนเป็นแผนที่ช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการมีน้ำหนักตัวที่ลดลง
วางแผนในการบริโภคอาหารที่มีปริมาณพลังงานเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย
ช่วยให้น้ำหนักส่วนเกินและไขมันสะสมในร่างกายคุณน้อยลง
ที่สำคัญอวัยวะอื่นๆ
ในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหารจะทำงานน้อยลง และมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เป็นเรื่องที่คุณสมควรทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้
เพราะเป็นการยากที่คุณจะป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับสารพิษ
แต่หากคุณทราบถึงแหล่งที่มาของสารพิษตั้งแต่ต้น คุณก็สามารถจะหลีกเลี่ยงหรือลดการรับสารพิษได้ง่ายขึ้น
นี่คือสรุปย่อแหล่งที่มาของสารพิษซึ่งคุณควรหลีกเลี่ยงเสียตั้งแต่วันนี้
การใช้ยา
ดื่มแอลกอฮอล์
การสูบบุหรี่
เมทิลแอลกอฮอล์
เนื้อสัตว์
ตัวการสะสมพิษ
อาหารฟาสต์ฟู้ด
อาหารกระป๋องเสี่ยงภัย
การดื่มชาหรือกาแฟ
การดื่มนม
การปล่อยให้ตัวเองขาดน้ำ
เครื่องสำอาง
ความเครียดหรือความวิตกกังวล
ผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในบ้าน
ระบบภายในและการเกิดออกซิเดชัน(Oxidation)


เวชภัณฑ์เพื่อการดูแลรักษาร่างกายของมนุษย์
มีคุณประโยชน์ในการรักษาอาการเจ็บป่วย ในขณะเดียวกัน
มันก่อให้เกิดโทษกับร่างกายได้ไม่น้อยเช่นกัน นอกจากฤทธิ์ในการรักษา มันยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงกับอวัยวะอื่นๆ
ในร่างกายอีกด้วย
ตับเป็นอวัยวะหลักที่ร่างกายใช้ทำหน้าที่ในการขับสิ่งแปลกปลอมต่างๆ
ที่เข้ามาในร่างกาย
ซึ่งหากร่างกายอยู่ในภาวะปกติตับก็จะทำหน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์
แต่เมื่อคุณเกิดภาวะเจ็บป่วย และหนึ่งมีการใช้ยารักษาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
ส่วนหนึ่งของยาจะถูกดูดซึมเข้าไปรักษาอาการในอวัยวะนั้นๆ
และอีกส่วนหนึ่งจะถูกสะสมอยู่ในตับ
ซึ่งหากมีปริมาณเล็กน้อย
แน่นอนว่าตับต้องทำหน้าที่นั้นได้อย่างสมบูรณ์ แต่หากคุณใช้ยามากเกินไป
กินยาเกินขนาด หรือใช้ยาจนเป็นกิจนิสัย สารพิษจากยาย่อมตกค้างและสะสมอยู่ในตับ
เมื่อตับไม่สามารถขับสารพิษนั้นออกได้
สารพิษเหล่านั้นก็จะแพร่กระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ และขัดขวางการทำงานของอวัยวะต่างๆ
ได้ ทางที่ดีคุณจึงควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยูเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยา


จริงๆแล้ว แอลกอฮอล์ก็มีประโยชน์อยู่เหมือนกันคือ
แอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้ผู้ดื่มเกิดความรู้สึกผ่อนคลาย
แต่นั้นหมายความว่าคุณจะต้องดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ในปริมาณเพียง
1-2 แก้วเท่านั้นซึ่งในปริมาณเท่านี้
ร่างกายมีระบบกำจัดของเสียเหล่านี้ออกได้เองโดยธรรมชาติ
ในการกลับกัน
หากปริมาณการดื่มหรือรับแอลกอฮอล์ของคุณเพิ่มขึ้น
แน่นอนว่าจะต้องมีของเสียตกค้างอยู่ในระบบและส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ส่งผลกระทบให้อวัยวะต่างๆ
ในร่างกายของคุณทำงานผิดปกติซึ่งอวัยวะที่ว่านั้นก็ได้แก่ สมอง กระเพาะอาหาร
ลำไส้เล็ก ตับอ่อน ผิวหนังและต่อมไร้ท่อต่างๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือตับ
เนื่องจากตับมีหน้าที่โดยตรงในการฟอก
กรอง และสกัดสารพิษออกจากร่างกาย
เมื่อตับไม่สามารถขับสารพิษที่ร่างกายรับเข้ามาได้หมด
ก็ย่อมก่อให้เกิดการสะสมและเก็บกักสารพิษไว้ เมื่อมากจนถึงระดับหนึ่ง
ร่างกายก็จะแสดงอาการต่างๆ ของโรคออกมา
และก่อให้เกิดโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับในที่สุด
ดั้งนั้น
ทางที่ดีคุณจึงควรจะหาวิธีล้างพิษเสียก่อน ก่อนที่มันจะทำให้เกิดอันตรายแก่คุณ
หรือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อที่ร่างกายจะไม่ต้องรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย

เพราะบุหรี่เป็นแหล่งรวมของสารอันตรายมากถึง
4,000
ชนิด หนึ่งในสารประกอบนั้นส่งผลให้ประสาทรับรู้ตื่นตัว
และลดความอยากอาหาร ไม่เฉพาะแต่ตัวผู้สูบเท่านั้นได้รับสารพิษ
แม้แต่ผู้ที่อยู่ใกล้และได้กลิ่นก็รับเอาสารพิษที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
และสารก่อมะเร็งเข้าสู่ร่างกายด้วย สารพิษเหล่านี้ได้แก่
สารนิโคติน
น้ำมันดินหรือทาร์
สารหนู
สารคาร์บอนมอนนอกไซด์
แอมโมเนีย

และสารโลหะหนักอีกมากมาย
อาทิ คลอโรฟอร์ม โพแทสเซียม ปรอท โซเดียม ตะกั่ว ทองแดง นิเกิล ไวนิลคลอไรด์
โครเมียม รวมทั้งสารดีดีซึ่งเป็นสารตกค้างจากการพ่นยาฆ่าแมลงในไร่ยาสูบนั่นเอง
สารพิษเหล่านี้ล้วนเป็นอันตรายขั้นร้ายแรงทั้งต่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้าง
ควันบุหรี่ที่ประกอบด้วยสารพิษต่างๆ เหล่านี้จะเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางปอด
เป็นผลเสียโดยตรงต่อหลอดเลือดและหัวใจ
นอกจากนี้สารพิษเหล่านี้ยังตกค้างในเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย


ในสมัยอดีตกาลตั้งแต่ยังอยู่ในยุคหิน
มนุษย์เราถูกธรรมชาติสอนให้รู้จักหาพืชผักต่างๆ มาประกอบเป็นอาหาร
ต่อเมื่อมนุษย์มีความเจริญ รู้จักการเรียนรู้ สังเกต
จึงเกิดการพัฒนาเรื่องอาหารการกิน เริ่มเปลี่ยนมากินเนื้อสัตว์
จากเดิมที่เคยล่าสัตว์ป่า เมื่อวิวัฒนาการมาถึงขั้นสูงขึ้น จึงรู้จักที่จะเพาะปลูก
และเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหาร เมื่อมีความต้องการเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภคเพิ่มขึ้น
มนุษย์เราจึงคิดค้นสารต่างๆ
เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตของสัตว์ให้ทันกับความต้องการ
ยาต่างๆ
ถูกนำมาใช้ในสัตว์ที่เลี้ยงเป็นอาหาร
โดยที่มนุษย์บางกลุ่มมิได้คำนึงผลเสียของยาหรือสารเคมีซึ่งจะตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์
ซึ่งเมื่อเราบริโภคเข้าไปย่อมได้รับยาหรือสารเคมีเหล่านั้นสะสมยู่ด้วย
หรือหากแม้เป็นสัตว์ที่ได้จากการล่าเวลาที่มันอยู่ในความกลัวที่จะเสียชีวิตหรืออาการตื่นตกใจ
สัตว์เหล่านั้นก็จะหลั่งฮอร์โมนอดรีนาลีนออกมา
แน่นอนว่ามันจะต้องปะปนอยู่กับเนื้อสัตว์เหล่านั้น
ผู้ที่บริโภคย่อมได้รับสารเคมีฮอร์โมนหรือสารพิษที่ตกค้างอยู่ในเนื้อสัตว์เหล่านั้นสารพิษบางอย่างจะไปรบกวนการทำงานของอวัยวะภายใน
และสารบางชนิดก็จะตกค้างอยู่ในลำไส้ใหญ่
เป็นต้นตอของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อาการกล้ามเนื้อกระตุก
หรือเกิดอาการจิตประสาทได้ด้วย


แทบจะทุกประเทศในโลกนี้มีร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดให้ผู้คนบริโภคซึ่งโดยมากเป็นอาหารประเภทที่เน้นแป้ง
เนื้อสัตว์ และไขมัน ซึ่งให้ปริมาณพลังงานมากจนเกินความจำเป็น
นอกจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณแล้ว อาหารฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้
ยังเป็นแหล่งที่มาของสารพิษที่ตกค้างในร่างกายอีกด้วย
อีกทั้งในอาหารกระป๋องแม้จะถูกผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมทั้งการไล่อากาศ
และนำไปฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ด้วยการนึ่งในหม้อความดันสูงก็ตาม
แต่จุลินทรีย์หรือเชื้อบางชนิดก็ยังคงมีชีวิตอยู่
หรืออาหารบางชนิดก็จะถูกเติมวัตถุกันเสียเข้าไป เพื่อให้สามารถเก็บรักษาเอาไว้ได้นาน
ทั้งอาหารฟาสต์ฟู้ด
และอาหารกระป๋องจึงเป็นแหล่งต้นตอที่ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษปนเปื้อนตกค้าง เช่น
มันฝรั่งทอดที่ถูกทอดในน้ำมันปาล์มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อคุณกินมันเข้าไป
น้ำมันที่ใช้ทอดเหล่านั้นจะรวมตัวเปลี่ยนเป็นเมือกหรือยางเหนียวๆ
เกาะอยู่ในผนังของลำไส้ใหญ่ซึ่งยิ่งนานเข้ายางเหนียวเหล่านี้ก็จะทำให้การทำงานของลำไส้ใหญ่ผิดปกติ
งานวิจัยบางชิ้นบอกด้วยว่า
การบริโภคน้ำมันปาล์มเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร
และมะเร็งในทางเดินอาหารได้สูงกว่าน้ำมันจากพืชชนิดอื่นๆ อีกด้วย


คุณทราบหรือไม่ว่า
นอกจากสารนิโคตินจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในบุหรี่แล้วเครื่องดื่มที่คุณกินเข้าไปในแต่ละวันอย่าง
ชาและกาแฟ ก็มีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบหลักด้วยเช่นกัน
สารนิโคตินมีคุณสมบัติทำให้ระบบประสารทส่วนกลางเกิดการตื่นตัว เห็นได้จากหลังการดื่มกาแฟหรือชา
ผู้ดื่มจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าขึ้น
แต่ในคุณประโยชน์นิโคตินก็เป็นสารเสพติดให้โทษด้วยเช่นเดียวกัน
คือสำหรับผู้ที่ดื่มชาหรือกาแฟมากเกินวันละ
1-2 แก้ว
นิโคตินที่ได้รับจะออกฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง และเมื่อเข้าสู่กระแสเลือด
นิโคตินจะไปทำให้ต่อมหมวกไตหลั่งสารอิฟิเนฟริน (Epinephine) ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
ความดันโลหิตสูงขึ้น
นอกจากสารนิโคตินแล้ว
กาเฟอีนก็เป็นอีกสารหนึ่งที่ผู้ดื่มชาและกาแฟจะได้รับ
ซึ่งกาเฟอีนมีผลดีโดยตรงในการช่วยลดความเสี่ยงต่อสภาวะสมองเสื่อม โรคอัลไซเมอร์
แต่ในขณะเดียวกันกาเฟอีนส่งผลโดยตรงต่อกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน
นอกจากนี้การได้รับกาเฟอีนเกินวันละ 200-300
มิลลิกรัมเป็นประจำจะมีผลต่อร่างกาย คือ เกิดอาการกระวนกระวาย ปวดศีรษะ
อ่อนเพลียและหงุดหงิดง่าย


นม คือ อาหารที่เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุมากมายหลายชนิด
ซึ่งการดื่มนมถูกปลูกฝังและเชื่อกันว่ามันจะให้ประโยชน์กับทั้งเด็ก ผู้หญิงมีครรภ์
และผู้ใหญ่ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า น้ำนมวัวที่เราดื่มกันอยู่ทุกวันนี้
ความจริงแล้วมันไม่ได้เหมาะสำหรับที่จะให้มนุษย์เราๆ ดื่มเข้าไป
มีงานวิจัยเด็กที่ดื่มนมวัวเป็นประจำ
จะพบว่าเด็กเหล่านี้มีปัญหาเรื่องสมาธิสั้น
ที่เป็นเช่นนี้เพราะในน้ำนมวัวจะมีสารกระตุ้นให้เกิดการตี่นตัวอยู่เสมอ
เพราะตามสัญชาตญาณแล้ว ลูกวัวเป็นสัตว์ที่ต้องคอยระวังภัยอยู่ตลอดเวลา
ในเด็กที่ดื่มนมวัวเป็นประจำยังเป็นโรคภูมิแพ้ได้ง่าย อีกทั้งงานวิจัยยังบอกว่า
นมวัวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชาย
ดังนั้นเมื่อร่างกายต้องการแคลเซียมหรือสารอาหารอื่นๆ
เราอาจดื่มนมวัวได้บ้าง แต่ควรดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำนมข้าวสลับกันไป


“น้ำ” ถือเป็นส่วนประกอบหลักในร่างกาย ซึ่งเลือด อวัยวะ
และของเหลวในร่างกายมีน้ำเป็นองค์ประกอบหลักทั้งสิ้น
ถึงขนาดที่นักวิทยาศาสตร์และแวดวงสาธารณสุขย้ำเตือนกันนักหนาว่า
เราต้องดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
น้ำที่ร่างกายดื่มเข้าไปนั่น
ทำหน้าที่ควบคุสมดุลของเหลวในร่างกาย นำพาสารอาหารต่างๆ ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะภายใน
และยังมีความสำคัญในการขับเคลื่อนของเสียและสารพิษตกค้างออกจากร่างกายดังนั้นหากวันหนึ่งๆคุณดื่มน้ำน้อยไม่เพียงต่อความต้องการของร่างกาย
นอกจากผิวพรรณที่จะดูแห้งแล้งไม่ชุ่มชื่น ดวงตาไม่สดใสแล้วแล้ว
ยังจะเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่มีผลมาจากของเสียที่สะสมอยู่ในร่างกายอีกด้วย
ดังนั้นการดื่มน้ำจึงนับได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
หากร่างกายขาดน้ำระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะทำงานผิดปกติ เซลล์ต่างๆก็จะเหี่ยวฝ่อ
และเมื่อผ่านไปเพียง 3-7 วันคุณก็สามารถจะเสียชีวิตได้ทันทีเพราะในทุกๆวัน
ร่างกายจะมีการขับน้ำออกมาของเสียต่างๆเช่น เหงื่อ ปัสสาวะ
หรือปะปนมากับอุจจาระบางส่วนโดยประมาณแล้ววันหนึ่งๆคุณจะสูญเสียน้ำไปถึง 2000-2500
มิลลิลิตร ดังนั้นน้ำที่ดื่มเข้าไปก็จะไปทดแทนได้อย่างเพียงพอ
ยกเว้นในกรณีที่คุณมีกิจกรรมซึ่งต้องเสียเหงื่อมากขึ้น แต่ทั้งนี้ความต้องการน้ำของแต่ละคน
ยังแตกต่างกันไปตามเพศ อายุ สิ่งแวดล้อม และอาหารที่กินเข้าไปทุกๆวันอีกด้วย
น้ำที่คุณด้วยดื่มต้องมีความสะอาด
ไม่มีสารแขวนตะกอนไม่มีโลหะหนักและสารเคมีปนเปื้อน รวมทั้งไม่ควรมีเชื้อโรค
วิธีการง่ายๆที่จะทำให้เราได้ดื่มน้ำสะอาดก็คือ การนำน้ำนั่นไปต้มให้เดือดก่อน
ซึ่งจะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ยังกำจัดโลหะหนักหรือสารแขวนตะกอนบางตัวไม่ได้
ทางที่ดีคุณควรใช้น้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐาน
เพื่อกรองสารเคมี โลหะหนักออกไปก่อนบางส่วน
แล้วจึงนำน้ำนั่นไปต้มอักครั้งเพื่อฆ่าเชื้อโรค ก็จะได้น้ำที่สะอาดเหมาะสำหรับดื่มแล้ว


เวชภัณฑ์เพื่อความสวยความงามแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายก็ตามที
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางที่เพิ่มเติมความสวยประเภทที่เป็นเครื่องแต่งหน้า
หรือเครื่องประทินโฉมต่างๆ ตั้งแต่แป้ง โลชั่นหรือครีมบำรุงผิว
หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายต่างที่คุณๆใช้กันอยู่ทุกวี่วัน
ถ้าเพียงแต่คุณจะใช้มันเฉพาะส่วนและไม่มีการรับเข้าสู่ร่างกายมันก็คงไม่ได้ปัญหาหรือทำให้เกิดสารพิษตกค้าง
แต่เพราะบางครั้งคุณก็ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงการรับเข้าสู่ร่างกายได้
ทางที่ดีคุณควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีน้อยที่สุด
เพื่อให้ระบบธรรมชาติภายในร่างกายสามารถกำจัดสารเคมีเหล่านั่นออกมาเองตามปกติ
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั่น
คุณควรจะหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ได้รับการรับรองหรือผลิตโดยไม่ได้รับมาตรฐาน
หรือไม่ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐ
เพราะเครื่องสำอางเหล่านั่นจะมีสารเคมีที่เป็นพิษปนเปื้อนหรือถูกนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต
ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียแก่ร่างกายโดยตรง

สาเหตุที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างที่สร้างผลเสียและก่อให้เกิดพิษกับร่างกาย
คือ ความเครียด คุณรู้หรือไม่ว่า
ความเครียดนั่นเกิดขึ้นได้ง่ายมากแค่เพียงคุณต้องเร่งรีบกับชีวิตประจำวัน
การอยู่บนท้องถนนที่มียวดยานพาหนะมากมาย การคร่ำเคร่งกับงานและความรับผิดชอบ
หรือแม้กระทั่งการวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆก็นับเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเครียดทั้งสิ้น
บางคนอาจจะคิดว่า
ก็ในวันทำงานหรือแม้กระทั่งไปเรียนหนังสือคุณไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆเหล่านั่นได้อยู่แล้ว
แล้วจะมีวิธีการใดที่จะหลีกเลี่ยงไม่ต้องประสบกับความเครียดล่ะ
อันที่จริง
คุณสามารถจะเกิดความเครียดได้ แต่ที่สำคัญกว่านั่นคือ คุณต้องมีวิธีการอันชาญฉลาดในการที่จะรับมือและจัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นต่างหาก
เช่น เมื่อคุณเริ่มรู้สึกหงุดหงิดกับเพื่อนร่วมงาน
คุณอาจจะเปลี่ยนอิริยาบถด้วยการเดินออกไปหาเครื่องดื่มเย็นๆสักแก้ว
เปิดเพลงเบาๆแล้วนั่นทำงานที่คุณต้องรับผิดชอบต่อไป
หลีกเลี่ยงการให้ความสนใจกับคนที่จะทำให้คุณต้องหงุดหงิดและเครียด เป็นต้น

แทบจะทุกบ้านมีสารเคมีอยู่ทั้งสิน
เช่น ยาฆ่าแมลงหรือสารดีดีที ผงซักฟอกที่มีส่วนผสมของสารเคมี
รู้หรือไม่ว่าในทุกๆวันที่คุณอยู่ร่วมกับสารเคมี บางครั้งก็รับเอาสารเคมีเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
ซึ่งพิษของสารเคมีเหล่านี้อาจไม่ได้ทำอันตรายต่อคุณทันที
แต่เมื่อมันสะสมอยู่ในร่างกายของคุณจนถึงขั้นหนึ่ง
มันจะทำระบบการทำงานของอวัยวะลดลง เป็นผลเสียโดยตรงต่อร่างกาย
การหลีกเลี่ยงไม่รับสารเคมีเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย
หรือลดปริมาณการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน
ก็เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยให้ร่างกายคุณปลอดภัยจากสารพิษได้

แน่นอนอยู่แล้วว่าร่างกายคนเราต้องการออกซิเจนเพื่อช่วยให้ระบบการหายใจเป็นไปโดยปกติ
เพราะออกซิเจนมีหน้าที่ลำเลียงสารพิษออกจากเซลล์ โดยนำไปกับเม็ดเลือด แต่ออกซิเจนเองสามารถทำปฏิกิริยาพันธะเคมีคู่กับธาตุอื่นๆได้อย่างง่ายดาย
นั่นคือคำอธิบายของปฏิกิริยาออกซิเดชัน
ซึ่งเจ้าออกซิเดชันนี่เองที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยอันควรรวมทั้งยังเป็นตัวที่ทำให้เกิด
“
อนุมูลอิสระ”ตันกำเนิดของ “ มะเร็งร้าย ”ในร่างกาย แต่เนื่องจากร่างกายมีระบบที่ฉลาด
สามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับสารพิษต่างๆที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็คือ “แอนดิออกซิเดชัน
(Antioxidation)” ซึ่งจะช่วยยับยั้งขัดขวางปฏิกิริยาดังกล่าว
หากคุณต้องการให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
ไม่ดูแก่ก่อนวัย ก็ควรจะหาสารอาหารที่สำคัญเพื่อส่งเสริมให้ร่างกายสร้าง
“สารอนุมูลอิสระ” สารอาหารเหล่านี้ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ซีลีเนียม
แคโรทีนอยด์ เป็นต้น รู้อย่างนี้แล้วคุณควรจะกินอาหารให้ครบห้าหมู่
เพื่อร่างกายจะได้สดใสเปล่งปลั่ง และปราศจากโรคภัยอีกด้วย

















